15 เมษายน 2568 จากกรณีที่นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย แจ้งความดำเนินคดีที่ สน.วังทองหลาง จากกรณีถูกแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นเป็นวิศวกรผู้ควบคุมงาน กิจการร่วมค้า PKW ที่เป็นคู่สัญญาผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ตึก สตง.ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหวนั้น

วันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ โดยกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองคดีฮั้วประมูล) ได้เชิญนายสมเกียรติ มาให้ข้อมูลในประเด็นดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำด้วย

โดยภายหลังคุยกันนานกว่า 1 ชม. พ.ต.อ.ทวี พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีดีเอสไอและนายสมเกียรติ ได้แถลงข่าวร่วมกัน โดย พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า วันนี้นายสมเกียรติ มาให้ข้อมูลในฐานะพยาน และจะเซ็นลายเซ็นของจริง เพื่อส่งตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เทียบกับลายเซ็นในเอกสารที่นายสมเกียรติให้ข้อมูลว่าถูกปลอมลายเซ็น 

หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ตรงกัน ถือว่าเป็นพิรุธอย่างหนึ่ง สามารถตั้งข้อสังเกตว่า มีการควบคุมงานการก่อสร้างจริงหรือไม่ และควบคุมโดยใคร ซึ่งตามปกติแล้ว หน่วยงานราชการที่ต้องการก่อสร้างอาคาร จะให้กรมโยธาธิการและผังเมือง หรือกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบ แต่ตึก สตง. ทั้ง 2 หน่วยงานไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ ซึ่งจากการสอบถามกรมโยธาฯ ชี้แจงว่า สตง. ขอให้เร่งออกแบบภายใน 180 วัน ซึ่งทางกรมฯไม่สามารถดำเนินการได้ทัน จึงต้องไป จ้างบริษัทเอกชนออกแบบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก แต่จากการตรวจสอบพบว่าคนออกแบบมีอายุ 80 ปี ซึ่งทั้งหมดจะต้องได้รับการตรวจสอบ

ขณะที่นายสมเกียรติ กล่าวว่า วันนี้ย้ำอยู่เพียง 2 เรื่องคือ ตนไม่ใช่ผู้ควบคุมงาน ไม่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้าง สตง. และถูกปลอมลายเซ็น ซึ่งตนได้แจ้งความกับ สน.วังทองหลางไว้แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ปลอมลายเซ็น ส่วนจะมีการฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายหรือไม่นั้น ต้องขอปรึกษาก่อน เพราะการจะทำอะไรต้องทำอย่างรอบคอบ พร้อมยืนยันว่า ไม่รู้จักนายปฏิวัติ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันกับกิจการร่วมค้า PKW แต่ไม่ขอตอบว่ารู้จักใครในบริษัทนี้หรือไม่ และไม่บอกว่าใครที่เดินทางมาชวนไปทำงานด้วยเมื่อปี 2563 บอกเพียงว่าเป็นคนที่รู้จักกันมานานแล้ว เพราะแค่ต้องการยืนยันว่าเอกสารใบผู้ควบคุมงานที่ปรากฏตามข่าวเป็นของปลอม

ตนไม่ได้ทำงานควบคุมการก่อสร้างมานานกว่า 20 ปีแล้ว สามารถตรวจสอบจากสภาวิศวกรได้ว่าตนเองเคยไปขออนุญาตควบคุมงานก่อสร้างโครงการนี้หรือไม่

ด้าน ร.ต.อ.สุรวุฒิ  เปิดเผยว่า ข้อมูลที่ได้ในวันนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของคดี 3 คนไทย เป็นนอมินีถือครองหุ้นบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เพราะมีความเชื่อมโยงกันเกี่ยวกับการทำงานตั้งแต่การออกแบบจนถึงการก่อสร้าง ซึ่งการปลอมเอกสารเป็นสาเหตุของเรื่องหลายอย่าง จึงถือเป็นจิ๊กซอว์หนึ่งที่ต่อเชื่อมว่ามีการทำผิดอะไรบ้าง

ภาพ วันชัย ไกรศรขจิต (Wanchai Kraisornkhajit)

#NationPhoto