KUBET – รัฐเร่งผลักดัน “พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย” วางกรอบเข้ม-สร้างรายได้

รัฐเร่งผลักดัน “พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย” วางกรอบเข้ม-สร้างรายได้

รัฐเร่งผลักดัน “พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย” วางกรอบคุมเข้ม-สร้างรายได้ วาง 3 เป้าหมายหลัก คาดเห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปี 2568

19 เมษายน 2568 ความพยายามของรัฐบาลไทยในการผลักดันให้ “เว็บพนันออนไลน์” เข้าสู่ระบบที่ถูกกฎหมาย กำลังเดินหน้าอย่างจริงจัง และอาจเห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปี 2568 หลังจากที่กระแสการเติบโตของเว็บพนันผิดกฎหมายยังคงลุกลาม พร้อมผลกระทบทางสังคม เศรษฐกิจ และอาชญากรรมทางไซเบอร์

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กำลังสั่งให้คณะทำงานเร่งมือทำโมเดลการทำให้เว็บพนันออนไลน์ถูกกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยพิจารณาทั้งการออก พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อเร่งแก้ปัญหาอย่างเฉพาะหน้า หรือการปรับปรุง พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ให้สอดรับกับบริบทยุคดิจิทัล 
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)

 

โดย 3 เป้าหมายหลัก ที่รัฐบาลต้องการบรรลุ ได้แก่

1. จัดเก็บรายได้ภาษี จากธุรกิจพนันออนไลน์อย่างถูกต้อง เพิ่มรายได้เข้ารัฐ

2. ลดปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการฟอกเงิน

3. สร้างความเชื่อมั่นในภาคการท่องเที่ยว โดยวางระบบควบคุมและตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส

กระทรวงดีอี ระบุว่า แนวทางที่กำลังพิจารณานั้น ได้อิงรูปแบบจากต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ อาทิ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และมาเก๊า ซึ่งเปิดให้มีการพนันออนไลน์ภายใต้กรอบกฎหมายที่เข้มงวด โดยประเทศไทยจะนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทสังคมไทย

นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาโมเดลจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เวียดนาม สปป.ลาว และมาเลเซีย ที่เดินหน้าให้ “การพนันถูกกฎหมาย” ไปแล้ว ขณะที่ประเทศไทยยังคงอยู่ในกรอบของกฎหมายเก่าที่ยังไม่รองรับโลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

แนวทางควบคุมที่กำลังพิจารณา ได้แก่

• ระบบยืนยันตัวตนแบบเข้มงวด
• การกำหนดอายุขั้นต่ำของผู้ใช้งาน
• การตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินทุน
• ระบบเก็บข้อมูลธุรกรรมเพื่อป้องกันการฟอกเงิน

แม้รัฐบาลยืนยันว่า การทำให้เว็บพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ไม่ใช่การส่งเสริมให้เล่นพนัน แต่คือการนำปัญหามาอยู่ภายใต้การควบคุม ให้สามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส และเป็นการเปลี่ยนภาระให้กลายเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจ

ภาคสังคมยังมีเสียงคัดค้าน ต่อประเด็นนี้ โดยเฉพาะความกังวลเรื่อง “การติดพนัน” และผลกระทบต่อเยาวชน หากไม่มีมาตรการป้องกันอย่างรัดกุม ทั้งนี้รัฐบาลย้ำว่าจะไม่เดินหน้าหากไม่มีมาตรฐานกำกับอย่างชัดเจน

ภายในปี 2568 อาจเป็นปีแห่งจุดเปลี่ยนสำคัญ หากประเทศไทยสามารถออกกฎหมายหรือปรับปรุงกฎหมายให้รองรับธุรกิจพนันออนไลน์ได้อย่างมีระบบ ภายใต้การกำกับของกระทรวงดีอี และการบูรณาการร่วมกับกฎหมายไซเบอร์ที่มีอยู่ ทั้งกฎหมายว่าด้วยอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

เดิมพันครั้งนี้ จึงไม่ได้อยู่แค่บนโต๊ะพนัน แต่อยู่ที่ว่า “สังคมไทย” จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้อย่างไร