KUBET – “คดีแตงโม” คดีหลักใกล้สิ้นสุด ศาลนัดฟังคำพิพากษา 4 จำเลย โทษสูงสุดคุก 10 ปี
“คดีแตงโม” คดีหลักใกล้สิ้นสุด ศาลนัดฟังคำพิพากษา 4 จำเลย โทษสูงสุดคุก 10 ปี
“คดีแตงโม” ใกล้สิ้นสุดคดีหลัก ศาลนัดฟังคำพิพากษา 4 จำเลย “กุนซือเอ็ม-แซน-กระติก-จ๊อบ หลังสืบพยานปากสุดท้ายเสร็จสิ้น “ทนายเดชา” ทนายคุณแม่ บอกให้รอฟังคำตัดสิน โทษสูงสุดคุกถึง 10 ปี
13 กุมภาพันธ์ 2568 ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม นิดา” ที่มี นายภีม ธรรมธีรศรี หรือ “กุนซือเอ็ม” , แซน , กระติก และจ๊อบ เป็นจำเลย ซึ่งวันนี้ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดสืบพยานฝ่ายจำเลยปากสุดท้ายคือ นายภีม ธรรมธีรศรี หรือ “กุนซือเอ็ม” ตลอดทั้งวัน จนเสร็จสิ้นเมื่อช่วงเย็น
โดย นายภีม หรือ กุนซือเอ็มจำเลยคนสุดท้าย ได้ลงจากศาลเดินกลับไปขึ้นรถยนต์ที่จอดอยู่ และเดินทางกลับในทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ
ด้าน ทนายเดชา ทนายฝ่ายโจทก์ เปิดเผยว่า หลังศาลได้สืบพยานจำเลยคนที่ 4 เสร็จสิ้นแล้ว ทางศาลจังหวัดนนทบุรีได้นัดฟังคำพิพากษาคดีแตงโมในวันที่ 23 พฤษภาคม 68 เวลา 09.30 น.โดยจะส่งร่างคำพิพากษา ไปให้สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 1 ทำการตรวจทานก่อน จึงจะมีคำพิพากษาคดีแตงโม จึงจะถือว่าคดีนี้จบบริบูรณ์
ก็ต้องไปรอดูกันว่า ศาลจะมีแนวทางพิพากษาออกมาอย่างไร จะเป็นไปตามฟ้องหรือไม่ เรื่องการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือจะยกฟ้อง เดี๋ยวในวันนั้นก็จะรู้กัน ถ้ายกฟ้องก็ต้องอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน ถ้าโจทก์ชนะคดี ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะอุทธรณ์ แต่ก็ไม่สามารถตอบได้เรื่องแพ้ชนะ เพราะจะกลายเป็นว่าไปละเมิดอำนาจศาล ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า จำเลยที่ 4 ให้การว่าอย่างไร ทนายเดชา กล่าวว่า จำเลยก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำในส่วนที่ถูกกล่าวหา ก็ให้การเหมือนในชั้นสอบสวนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีประมาณเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมีอัตราโทษอย่างไร ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี คล้ายกับคดีขับรถชนคนตาย ในคดีนี้ไม่สามารถเปลี่ยนข้อหาอะไรได้ นอกจากหาคนผิดเพิ่มได้หรือไม่ ต้องรอลุ้นกับคุณอัจฉริยะที่ดีเอสไอ แต่มันคนละประเด็นกัน คนละส่วนคนละฐานความผิด อันนั้นเป็นเรื่องมาตรา 157
เมื่อถามว่า หากคดีนี้ไม่ได้เป็นคดีประมาท คุณแม่จะว่าอย่างไรบ้าง ทนายเดชา กล่าวว่า คุณแม่ ก็ให้ความร่วมมือและไปพบพนักงานสอบสวนที่ ดีเอสไอเรียบร้อยแล้ว ไปให้การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งคุณแม่ให้การและสนับสนุนการค้นหาความจริง
เมื่อถามว่า คุณแม่จะสามารถเปลี่ยนข้อหาได้หรือไม่ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณแม่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ เพราะคุณแม่เป็นโจทย์ร่วมเท่านั้น โจทก์หลักคือพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี ถ้าจะมีการแก้ฟ้องก็ต้องเป็นเรื่องของพนักงานอัยการ คดีนี้คุณแม่ทำได้แค่เป็นโจทย์ร่วมเท่านั้น
ด้าน ทนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของ แซน ฝ่ายจำเลยกล่าวว่า วันนี้เป็นการสืบพยานจำเลยที่ 4 เป็นปากสุดท้าย และศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 23 พฤษภาคม 68 จำเลยทั้ง 4 คน จะต้องเดินทางมาฟังคำพิพากษา จำเลยจะต้องมาฟังทุกคน ซึ่งไม่อยากลงรายละเอียดอะไรมากนัก จากวันนั้นจนถึงวันนี้ทนายฝ่ายจำเลย ได้ร่วมกันทำคดีมาร่วม 2 ปี ขอแจ้งให้ทราบว่า คดีนี้จำเลยถูกแจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ไม่ใช่ข้อหาอื่น ทนายความต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทนายความ เพื่อดูแลคดีให้กับลูกความ ส่วนคดีเราว่ากันด้วยพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริงไม่มีอย่างอื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความหนักใจในคดีหรือไม่ ทนายพรศักดิ์ กล่าวว่า จะพูดว่าหนักใจทั้งหมดก็ไม่ได้ เราทำคดีไปตามพยานหลักฐานในสำนวน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรเราสู้ไปตามพยานหลักฐานในสำนวน